วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

7 วิธีง่ายๆในการใช้แบตเตอรี่ Flytouch 2 ให้นานขึ้น


มาดูวิธีใช้แบตเตอรี่ของเจ้า Flytouch 2 ให้นานขึ้นแบบง่ายๆ ด้วยความรู้พื้นฐานที่เราสามารถทำได้เองไม่ต้องใช้เทคนิคพิเศษกันครับ
Android Tablet รุ่น Flytouch 2 นี้หากเราใช้งานตามปกติโดยเปิด Wifi ทิ้งไว้ตลอดเวลาจะใช้งานได้ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น แต่หากเราใช้งานอ่าน E-book, เล่นเกมส์ ที่ไม่ได้ดำเนินการเกี่ยวข้องใดๆกับอินเตอร์เนทจะสามารถใช้งานได้ 4 ชั่วโมงกว่าเลยทีเดียว

แต่เจ้าตัว Flytouch 2 เองก็สามารถใช้งานได้ถึง 6 ชั่วโมงได้เหมือนกันนะ!

จริงๆแล้วเรื่อง การใช้พลังงานตัวชิพเซทของ ARM CPU เองก็มีส่วนเช่นกัน แต่ยังมีส่วนประกอบอื่นๆอีก 7 ประการ ที่ควรคำนึงถึงในเรื่องของการประหยัดพลังงานด้วย หากต้องการใช้งานให้ยาวประมาณนั้น ลองมาดูปัจจัยเหล่านี้ไปพร้อมๆกันครับ

1.Wifi

ตัว Tablet PC เองไม่ใช่อุปกรณ์ที่สามารถประหยัดพลังงานในการใช้ Wifi เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ถ้าเราไม่ใช้ Wifi ก็ควรปิดทิ้งเสียก่อน เมื่อไหร่ที่จะใช้จึงค่อยเปิด อันนี้เป็นวิธีที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มาก

2. External Storage, External Device

ดังเช่น Micro SD Card, USB Thumb Drive, 3G Aircard สิ่งเหล่านี้ล้วนดึงพลังงานไปใช้ทั้งสิ้น ฉะนั้นหากไม่มีธุระอะไรกับอุปกรณ์มากมายก็จงใช้แต่น้อย

3. GPS

อุปกรณ์ Flytouch 2 มีหลายแบบจากโรงงานซึ่งมีทั้งแบบมาพร้อม GPS และไม่มี GPS ตัวที่มี GPS นี้หากเปิดใช้งานจะเป็นอะไรที่เขาเรียกว่า Power Hungry มาก หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นฟังก์ชั่นสูบแบตเตอรี่นั่นเองครับ หากต้องการใช้ GPS นำทางจริงๆ แนะนำให้ซื้อ GPS ติดรถยนต์ ไปใช้จริงๆจังๆซักเครื่องจะดีกว่าครับ เพราะโปรแกรมนำทางก็ดีกว่าในเครื่อง Android เองด้วย

4. Gravity System ( G-Sensor )

ในตัวของ Flytouch 2 เองมีเรื่องแรมที่ค่อนข้างจำกัด และการใช้ G-Sensor ในการพลิกซ้าย ตะแคงขวา ให้จอหมุนไปมานั้น เป็นการกระตุ้นให้ตัวเครื่องต้องใช้แรมมากขึ้น จะสังเกตได้ว่า แม้ว่าจะพลิกจอได้แต่ก็ต้องมีดีเลย์จะไม่ทันใดเหมือน iPad และยังรวมไปถึงการเล่นเกมส์ที่ต้องใช้พวก G-Sensor ด้วย อาทิเช่นเกมส์ขับรถ ทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่เช่นกัน ถ้าไม่ได้ใช้ก็ติ๊ก OFF ฟังก์ชั่นนี้ไปเลยครับ

5. Ram Memory

อย่างที่กล่าวไปจากข้อที่แล้ว หากไม่มีการใช้ Application ต่างๆมากมาย หรือเปิดค้างไว้หลายตัว ก็ใช้พวก App ประเภท Task Killer ปิดการทำงานไปก่อน จะทำให้ประหยัดแรม และกินไฟเครื่องน้อยลงไปด้วย

6. Screen

หรือเรียกง่ายๆก็คือหน้าจอนั่นเอง ด้วยหน้าจอที่ใหญ่กว้างถึง 10.1 นิ้ว นั่นหมายถึงการเผาผลาญแบตเตอรี่ที่มากกว่าจอเล็กๆ ซึ่งเราสามารถเซฟแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้มากขึ้นหากปรับความสว่างจอให้น้อยลงครับ ความสว่าง 100%, 50%, 0% กินแบตเตอรี่ไม่เท่ากันนะเอ้อ!

7. Install Battery Optimized Software

หรือก็คือหา Application ที่เกี่ยวกับการเช็คแบตเตอรี่ของตัวเครื่องมาลองศึกษาดู ลักษณะการกินไฟมาก-น้อย ของอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่นั่นเอง ใน Android Market มีฟรีและดีอยู่เพียบ ลองโหลดมาลงซักตัวก็ไม่เสียหายอะไร

สรุป

ถ้าอยากใช้แบตได้นานถึง 6 ชั่วโมงขนาดนั้นสรุปง่ายๆว่าต้องจำกัดการใช้งานค่อนข้างเยอะครับ อันได้แก่
ปิดการใช้งาน Wifi, G-Sensor, GPS, ปรับความสว่างหน้าจอให้ต่ำสุด, ใช้ External Storage น้อยๆนั่นเองครับ
แต่รวมๆแล้วก็คงเป็นการยากเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสใช้ไปชาร์จไป ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น